เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ได้แถลงผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกหลังเหตุการณ์กลุ่มทหารรับจ้าง “แวกเนอร์กรุ๊ป” พยายามก่อการกบฏบุกกรุงมอสโก โดยระบุว่า ผู้ที่เป็นแกนนำในเหตุการณ์นี้ทราบดีว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย และบุคคลเหล่านี้จะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้ก่อนหน้านี้จะมีรายงานข่าวว่ารัฐบาลรัสเซียจะไม่ดำเนินคดีใดกับเยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์กรุ๊ป ที่ล้มเลิกความพยายามบุกกรุงมอสโก และได้รับข้อเสนอลี้ภัยในเบลารุส
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูตินไม่ได้เอ่ยชื่อของพริโกซินระหว่างการแถลงแต่อย่างใด
ส่วนทหารทั่วๆไปของแวกเนอร์กรุ๊ป ผู้นำรัสเซียยืนยันจะไม่ดำเนินการใดๆ โดยกองทัพพร้อมรับเข้าเป็นกำลังพลในสังกัด หรือเลือกไปลี้ภัยในประเทศเบลารุส หรือเดินทางกลับไปอยู่กับครอบครัวคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม
นักวิเคราะห์ เชื่อ “ปริโกชิน” อาจถูกสังหารหลังทรยศ "ปูติน"
สื่อรัสเซียเผย การสอบสวนคดี “แวกเนอร์ก่อกบฏ” ยังไม่ถูกยกเลิก
สหรัฐฯ ชี้ “กบฏแวกเนอร์” สะท้อนความไม่มั่นคงในอำนาจผู้นำรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม คดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับองค์กรกบฏติดอาวุธของพริโกซินยังไม่ถูกปิด และยังคงถูกสอบสวนโดยหน่วยความมั่นคงกลางรัสเซีย หรือ FSB
โดย FSB ได้ตั้งข้อหาต่อ พริโกซิน ภายใต้มาตรา 279 แห่งประมวลกฎหมายอาญาของรัสเซีย ในข้อหาก่อกบฏด้วยอาวุธ โดยนับตั้งแต่ที่พริโกซินประกาศว่าหน่วยงานของเขาถูกโจมตีโดยกองทัพรัสเซีย และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาต่อต้านกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมายจะมีโทษจำคุก 12-20 ปี
ทั้งนี้ ไม่เป็นที่ชัดเจนว่า การที่การสอบสวนคดียังดำเนินอยู่นี้ จะส่งผลให้ในท้ายที่สุดพริโกซินจะต้องรับโทษทางกฎหมายหรือไม่ หรือหลังจากนี้จะมีกระบวนการบางอย่างในการนิรโทษกรรม
ส่วน นาย พริโกซิน ยืนยันเมื่อวานนี้การเคลื่อนกำลังบุกกรุงมอสโกไม่ใช่ความพยายามโค่นล้มรัฐบาล แต่เป็นเป็นการปกป้องกลุ่มแวกเนอร์ เนื่องจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียมีแผนจะยุบกลุ่มแวกเนอร์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ พริโกซิน ยังอ้างว่าประชาชนในหลายเมืองของรัสเซียให้การสนับสนุนกลุ่มแวกเนอร์ในการต่อสู้กับระบบราชการ รวมถึงคนไม่ดีภายในรัฐบาล แต่ที่ต้องตัดสินใจยุติแผนการบุกกรุงมอสโกเพราะไม่ต้องการเห็นทหารรัสเซียสูญเสียเลือดเนื้ออีก แม้จะทำให้ประชาชนผิดหวัง
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า นาย พริโกซิน พำนักอยู่ที่ใด
ขณะที่ นาย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยว่าฝ่ายข่าวกรองกำลังตรวจสอบว่าหน่วยงานด้านจารกรรมของชาติตะวันตกเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏของกลุ่มแวกเนอร์กรุ๊ปหรือไม่
โดย นาย ลาฟรอฟ ตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯมักให้การสนับสนุนความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ที่ขัดผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
ส่วน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ย้ำว่า สหรัฐฯ และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏสายฟ้าแลบในรัสเซียของกลุ่มทหารรับจ้างแวกเนอร์ และว่าเป็นการลุกฮือและท้าทายอำนาจประธานาธิบดี ปูติน เป็นปัญหาภายในรัสเซีย
ผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกว่าได้หารือกับพันธมิตรรวมทั้งกับยูเครนเกี่ยวกับสถานการณ์ของรัสเซียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมให้คำมั่นกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในรัสเซีย สหรัฐฯ จะเดินหน้าการสนับสนุนการปกป้องและอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของยูเครนต่อไป